สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงเรียกร้องคริสตชน หลีกหนีจากการบูชาอำนาจและเงินตรา แต่จงหันมาให้ความสำคัญกับศีลมหาสนิท ซึ่งเป็นหนทางนำเราไปสู่สวรรค์ พร้อมกันนี้ ทรงกระตุ้นเยาวชนฝรั่งเศส กล้าติดตามพระคริสตเจ้า ด้วยใจอย่างมุ่งมั่นและแน่วแน่
เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันเสาร์ที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุของค์ที่ 265 แห่งพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเป็นประธานในพิธีมิสซา ซึ่งจัดขึ้น ณ ลานหน้า เลอ แองวาลิดส์ (Le Invalides) พิธีนี้ มีพระคาร์ดินัลและพระสังฆราช มาร่วมกว่า 90 องค์ พระสงฆ์ 1,500 องค์ ขณะที่สัตบุรุษมีประมาณ 300,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าที่อัครสังฆมณฑลปารีสคาดการณ์ไว้ เกือบหนึ่งเท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้ มีเรื่องน่ายินดี เมื่อภาพถ่ายที่วางขายตามสำนักข่าวต่างประเทศ ปรากฏธงชาติไทยโบกสะบัดระหว่างมิสซาด้วย
มิสซานี้ เป็นพันธกิจสุดท้ายที่ "พระสันตะปาปา เบอนัวต์ ที่ 16" (Benoit XVI - เบอนัวต์ ที่ 16 เป็นพระนามเบเนดิกต์ ภาษาฝรั่งเศส) จะปฏิบัติในปารีส เนื่องจากช่วงบ่าย พระองค์จะเสด็จต่อไปยังเมืองลูร์ด เพื่อร่วมงานสมโภชแม่พระประจักษ์ที่ลูร์ด ครบ 150 ปี
ใจความสำคัญของประจำบทเทศน์ประจำมิสซา พระสันตะปาปา ทรงนำเสนอแนวคิด ดำเนินชีวิตถอยห่างจากวัตถุทางโลก อาทิ อำนาจเงินตรา พระองค์ชี้ว่า ของเหล่านี้ มีแต่จะกระตุ้นให้เราอยากเป็นเจ้าของ แต่มันเป็นทรัพย์สินทางโลก ตายไปก็เอาไปไม่ได้ พระองค์ชี้ว่า ศีลมหาสนิทต่างหาก ที่เราควรจะยึดมั่นให้เป็นศูนย์กลางการดำเนินชีวิต เพราะนี่คือสวรรค์บ้านแท้ของมนุษยชาติ
พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ในบทจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่หนึ่ง ท่านตักเตือนคริสตชนให้หลีกเลี่ยงการกราบไหว้รูปเคารพ (1 โครินธ์ 10:14) คำว่า รูปเคารพ (Idol) มาจากภาษากรีก แปลว่า ภาพลักษณ์, รูปภาพ, ตัวแทน แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็แปลว่า ปีศาจ, ความชั่วร้าย รูปเคารพยังเป็นความเชื่อผิดๆ ทำให้ผู้ศรัทธาทุกคน ถอยห่างออกจากความจริงและออกห่างจากพระอาณาจักรของพระเจ้า"
"นักบุญเปาโล อธิบายแก่ชาวโคโลสีว่า การกราบไหว้รูปเคารพ ไม่ได้มีเพียงแค่การไหว้รูปเทพเจ้านอกรีตเท่านั้น แต่มันยังอยู่ในรูปของการผิดประเวณี, ความโลภหลงเงินตรา, กิเลสตัณหาต่างๆ (โคโลสี 3:5) นักบุญเปาโล ยังเตือนทิโมธีว่า การนมัสการรูปเคารพก็คือการบูชาเงินตรา นี่เป็นรากเหง้าของความชั่วร้ายทุกประการ (1 ทิโมธี 6:10) เงินตราคือการกระหายหาความเป็นเจ้าของ สิ่งนี้ ไม่ได้นำเราไปสู่จุดหมายปลายทางที่แท้จริงของชีวิต"
"แล้วเราจะแสวงหาพระเจ้า แสวงหาจุดหมายปลายทางที่แท้จริงของชีวิตได้อย่างไร คำตอบไม่ได้อยู่ไกลจากตัวเราเลย นั่นคือ จงร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระกายของพระคริสตเจ้า ศีลมหาสนิทคือหนทางที่จะช่วยเราให้เป็นอิสระจากรูปเคารพเหล่านี้ หลายต่อหลายครั้งตลอด 2,000 ปีที่ผ่านมา ภายในวัดน้อยอันเรียบง่าย หรือจะเป็นมหาวิหารและอาสนวิหารต่างๆ พระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพ ได้ทรงมอบพระองค์ผ่านทางศีลมหาสนิทให้กับประชากรของพระองค์ เช่นเดียวกับในมิสซานี้ พระเจ้าทรงเชิญชวนเรา ให้มารับพระกายของพระองค์ พระองค์ทรงสอนเราให้เลิกกราบไหว้รูปเคารพเหล่านั้น แต่จงมานมัสการพระองค์ ผู้ทรงเป็นปลายทางที่แท้จริงของชีวิต"
ในตอนท้าย พระสันตะปาปา ผู้ทรงพระชนมายุ 81 ชันษา ทรงเรียกร้องให้เยาวชนกล้าสละชีวิตทางโลก แล้วติดตามพระคริสตเจ้า โดยการเป็นพระสงฆ์นักบวช พระองค์ตรัสว่า "ลูกๆเยาวชนที่รัก จงอย่ากลัวที่จะมอบชีวิตของตนเองให้กับพระคริสตเจ้า ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่า การอุทิศตนเอง เพื่อเป็นสงฆ์แห่งพระคริสต์ และทำงานรับใช้พระศาสนจักรของพระองค์"
"เยาวชนที่รัก รวมทั้งคนที่ไม่ได้เป็นเยาวชน แต่กำลังฟังพ่ออยู่ในตอนนี้ จงอย่าปล่อยให้เสียงเรียกของพระเยซู ไม่ได้รับการตอบสนองเป็นอันขาด !!" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย ท่ามกลางเสียงปรบมือดังสนั่นเป็นเวลายาวนาน
หลังจากมิสซาเสร็จสิ้นลง พระสันตะปาปาได้เสด็จไปเสวยอาหารเที่ยงร่วมกับบรรดาพระสังฆราชคาทอลิกฝรั่งเศส ภายในสถานเอกอัครสมณทูตวาติกัน จากนั้น ทรงประทับเครื่องบินพระที่นั่งออกจากสนามบินออร์ลี่ย์ ปารีส มุ่งหน้าสู่เมืองลูร์ด ต่อไป
ข่าวที่น่าสนใจ
- ประมวลภาพ : พระสันตะปาปาถวายมิสซาที่ปารีส
No comments:
Post a Comment